ดับเบิ้ล เคล้นซิ่ง (double Cleansing) คืออะไร
แต่งหน้าไปเรียนไปทำงานพอกลับถึงบ้านก็ขี้เกียจล้างหน้าขอล้างแบบเร็วๆโฟมล้างหน้าหนึ่งขั้นตอนจบหรือขอหลับก่อนแล้วค่อยตื่นมาล้างมีใครเป็นแบบนี้บ้างคะ ยกมือขึ้น 🙋🏻♀️ ไม่ต้องอายค่ะเพราะมอลล์ลี่ก็เคยเป็นเหมือนกัน😅
เวลาทำงานมาเหนื่อยๆ เผชิญปัญหารถติด กลับมาถึงบ้านก็อยากจะล้มตัวลงนอนโดยไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ขอเวลา 5 นาที ผ่านไปเป็น 15 นาที รู้ตัวอีกทีเครื่องสำอางค์ที่หน้าก็เปรอะหมอนไปหมด 😬 ถ้าคุณเป็นแบบที่ได้ยกตัวอย่างไป เอาอย่างนี้ค่ะ เรามาหยุดพฤติกรรมที่ไม่น่ารักต่อผิวเราดีกว่า โดยเมื่อถึงบ้านปุ๊บ รีบอาบน้ำล้างหน้าล้างตา ล้างเครื่องสำอางค์ออกให้หมด ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน จะนอนจริงหรือจะนอนเล่นโทรศัพท์มือถือเราก็ไม่ว่ากัน ถ้าผิวคุณสะอาดแล้วค่ะ👌🏻😉
วันนี้จะมาพูดให้ฟังกันว่าการล้างหน้าแบบสองขั้นตอนหรือที่คุณอาจจะได้ยินติดหูกันว่า Double Cleansing มันคืออะไร คุณควรทำรึเปล่า มันมีผลดีกับผลเสียกับสภาพผิวของคุณหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วเราไปทำความเข้าใจกับเจ้า ดับเบิ้ล เคล้นซิ่ง กันเลยค่ะ
ดับเบิ้ลเคล้นซิ่งคืออะไร
เอ๊ะ มันคือการล้างหน้าแบบสองครั้งหรือเปล่า คำตอบคือทั้งถูกและผิดค่ะ
ที่ถูกก็คือ ดับเบิ้ล เคล้นซิ่ง จะเป็นการล้างหน้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์สองตัวหรือพูดง่ายๆ คือล้างหน้าสองครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสองชนิด
ปกติแล้วจะเริ่มด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เป็น Oil-Based Cleanser หรือมีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลัก ตามด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เป็น Water-Based Cleanser หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก ในขั้นตอนที่สอง
อย่างไรก็ตามถ้าผิวของคุณไม่เหมาะสมกับ Oil-Based Cleanser คุณสามารถล้างหน้าด้วย Water-Based Cleanser ที่มีส่วนผสมแตกต่างกัน อาจจะเป็นคนละแบรนด์ หรือแบรนด์เดียวกันก็ได้ค่ะแต่ที่แน่ๆ คือต้องใช้ทั้งหมด 2 สูตรไม่ใช่ใช้แค่ 1 สูตร
ทำไมต้อง ดับเบิ้ล เคล้นซิ่ง
เหตุผลที่ควรล้างหน้าแบบ Double Cleansing ก็เพื่อที่ว่าวิธีนี้จะทำให้เรามีความสามารถที่จะล้างทำความสะอาดผิวให้ได้มากที่สุด ลึกที่สุดในชั้นผิวของเรา
ในอันดับแรก เราจะใช้ Oil-Based Cleanser เพื่อชำระล้างคราบน้ำมัน ฝุ่นละออง มลภาวะ ครีมกันแดด เครื่องสำอางค์ ที่เคลือบผิวเราอยู่ ในขั้นตอนนี้คุณสามารถนำผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือก อาจจะเป็น Cleansing Oil หรือ Cleansing Balm มานวดผิวหน้า เพื่อให้สิ่งสกปรกทั้งหลายหลุดออกมา
ในอันดับที่สอง เราจะใช้ Water-Based Cleanser เพื่อชำระล้าง เหงื่อไคลและสิ่งที่หมักหมมอยู่ภายใต้ผิวหนัง
นอกจาก Double Cleansing จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกบนผิวหน้าแล้ว ยังสามารถช่วยให้การทาครีมบำรุงผิวสามารถซึมเข้าสู่ผิวเราได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
ดับเบิ้ล เคล้นซิ่ง เหมาะกับใคร
จริงๆ แล้ว วีธีล้างหน้าแบบนี้มันก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่นะคะ ถ้าคุณล้างหน้าแบบถูกวิธี แต่ว่าถ้าถามว่ามันเหมาะกับใครบ้าง ต้องบอกว่าเหมาะกับทุกๆ คนค่ะ แต่ว่าจะดีที่สุดสำหรับคนที่มีผิวมัน คนที่แต่งหน้าเป็นประจำ และคนที่เป็นสิว เพราะวิธีล้างหน้าแบบนี้จะช่วยให้ผิวของเราสะอาดมากขึ้น
จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ดับเบิ้ลเคล้นซิ่ง จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปจากรูขุมขนและผิวหนังได้สะอาดมากกว่าวิธีปกติที่เราล้างแบบหนึ่งขั้นตอน แต่วิธีนี้ก็ไม่สำคัญเสมอไป และควรจำไว้ว่าคุณไม่ควรขัดหรือสครับผิวแบบแรงๆ ควรล้างหน้าแบบอ่อนโยนเพื่อให้ผิวไม่เกิดการระคายเคือง
ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าผิวของคุณดูใสขึ้น สว่างขึ้น หรืออย่างน้อยคุณมีความรู้สึกว่าผิวสะอาดขึ้น แสดงว่าวิธีการล้างหน้าแบบ ดับเบิ้ล เคล้นซิ่ง ดีต่อผิวของคุณ
แต่ถ้าหากว่าผิวของคุณมีอาการอักเสบ แดง หรือแห้งเกินไป คุณควรหยุดล้างหน้าแบบดับเบิ้ล เคล้นซิ่ง แล้วหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อสภาพผิวของคุณแทนค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อคุณในการทำความสะอาดผิวหน้านะคะ ☺️
แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า สวัสดีค่ะ
xo,
มอลล์ลี่
สุกฤตา ลาร์เซ่นท์