ลืมไปเลยว่าเคยตู้แตก หมดปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้ !! กับการจัดตู้เสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่น Konmori
ลืมไปเลยว่าเคยตู้แตก หมดปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้ !! กับการจัดตู้เสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่น Konmori
.
ช่วง Work From Home ตอนนี้ คือกักตัวจนเบื่อหนักมาก เลยลองหาอะไรทำ ที่มันจรรโลงใจสักหน่อย ตาก็เหลือบไปมองตู้เสื้อผ้า OMG มันแบบว่าล้นตู้มากก แต่ก็ยังไม่รู้จะเอาไปไหน คิดไม่ออก เลยมาหาข้อมูล เลยเจอไอเดีย จัดตู้เสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่น Konmori ที่ทำให้เรานั้นเก็บเสื้อผ้าได้ประหยัดเนื้อที่มากๆ และเป็นระเบียบอีกด้วยย Konmori คืออะไร เราไปดูกันเลยจ้า
คงเป็นปัญหาโลกแตกของสาวๆหลายๆคนที่รักในแฟชั่น รักในการแต่งตัว F เสื้อผ้ากันแบบกระจุยกระจาย รู้ตัวอีกทีก็เต็มตู้เสียแล้ว จะทิ้งบางตัวก็ยังเสียดาย บางตัวซื้อมาก็ยังไม่ได้ใส่ เจ้ากรรม จะทำอย่างไรกันนี่เราเลยมีวิธีจัดเก็บเสื้อผ้าล้นตู้อย่างมีประสิทธิภาพ มาฝากทุกคนค่ะ กับการจัดตู้เสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่น Konmori
.
ซึ่งเป็นวิธีการจัดเก็บของที่เรียบง่าย และมีประสิทธิภาพ “กุญแจสำคัญของ Konmori คือ การเริ่มต้นด้วยการทิ้งแล้วจัดพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นระเบียบแบบรวดเดียวจบ”
.
เพื่อน ๆ อาจจะงงว่า “KonMari” คืออะไร “KonMari” ก็คือชื่อวิธีการจัดเก็บบ้าน ซึ่งนำมาจากในหนังสือ The Life-Changing Magic of Tidying Up ซึ่งถูกเขียนขึ้นโดยหญิงสาวชาวญี่ปุ่นชื่อ Kondo Marie (คนโด มาริเอะ) 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลก ประจำปี 2015 ที่ถูกจัดขึ้นโดยนิตยสารไทม์ ซึ่งการจัดเก็บ จะมีหลายหมวดหมู่ ในวันนี้ เราจะนำเสนอวิธีการเก็บเสื้อผ้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับตู้เสื้อผ้าของเพื่อน ๆ ได้อย่างง่ายดาย จะเป็นยังไงบ้าง มาดูวิธีกันเลยค่ะ
1. การคัดแยกเสื้อผ้า
วิธีการแรกให้เพื่อน ๆ นำเสื้อผ้าทั้งหมดในบ้าน ขนออกมาให้หมด นำมาวางกองรวมกันไว้บนเตียง จากนั้นให้เพื่อน ๆ ค่อย ๆ คัดแยก อย่างใจเย็น แยกทีละตัว ว่าตัวไหนเอา หรือ ไม่เอา คัดแยกด้วยความสุข อย่ารีบร้อน เพราะว่าถ้าเพื่อน ๆ คัดแยกเสื้อผ้าอย่างสุขใจก็จะรู้ว่าตัวไหนที่ได้ใส่แล้วชอบหรือตัวไหนที่เคยใส่แล้วไม่ชอบจะทำให้เพื่อน ๆ คัดแยกได้ดี เราสามารถเลือกได้ว่าจะนำไปบริจาค หรือนำไปขายต่อแบบมือสอง หรือถ้าเสื้อผ้าตัวนั้นใช้การไม่ได้แล้วเราจะทิ้งไปเลยก็ได้ค่ะ
วิธีการแรกให้เพื่อน ๆ นำเสื้อผ้าทั้งหมดในบ้าน ขนออกมาให้หมด นำมาวางกองรวมกันไว้บนเตียง จากนั้นให้เพื่อน ๆ ค่อย ๆ คัดแยก อย่างใจเย็น แยกทีละตัว ว่าตัวไหนเอา หรือ ไม่เอา คัดแยกด้วยความสุข อย่ารีบร้อน เพราะว่าถ้าเพื่อน ๆ คัดแยกเสื้อผ้าอย่างสุขใจก็จะรู้ว่าตัวไหนที่ได้ใส่แล้วชอบหรือตัวไหนที่เคยใส่แล้วไม่ชอบจะทำให้เพื่อน ๆ คัดแยกได้ดี เราสามารถเลือกได้ว่าจะนำไปบริจาค หรือนำไปขายต่อแบบมือสอง หรือถ้าเสื้อผ้าตัวนั้นใช้การไม่ได้แล้วเราจะทิ้งไปเลยก็ได้ค่ะ
2. การพับเสื้อผ้า
เมื่อเพื่อน ๆ คัดแยกเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาถึงขั้นตอนสำคัญ เพราะเสื้อผ้าจะเรียบร้อยเข้าที่ได้นั่น เราต้องจัดเก็บเสื้อผ้า โดยวิธีการของ “KonMari” จะใช้วิธีการพับเสื้อผ้าแทนที่จะเป็นการแขวน ซึ่งการพับผ้าแบบ “KonMari” นั้นเป็นการพับเสื้อผ้าแบบแนวตั้ง ซึ่งจะทำให้ประหยัดเนื้อที่การจัดเก็บได้อีกมากเลยทีเดียว
เมื่อเพื่อน ๆ คัดแยกเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาถึงขั้นตอนสำคัญ เพราะเสื้อผ้าจะเรียบร้อยเข้าที่ได้นั่น เราต้องจัดเก็บเสื้อผ้า โดยวิธีการของ “KonMari” จะใช้วิธีการพับเสื้อผ้าแทนที่จะเป็นการแขวน ซึ่งการพับผ้าแบบ “KonMari” นั้นเป็นการพับเสื้อผ้าแบบแนวตั้ง ซึ่งจะทำให้ประหยัดเนื้อที่การจัดเก็บได้อีกมากเลยทีเดียว
3.การจัดวางเสื้อผ้า
เมื่อพับผ้าเสร็จแล้ว ก็มาต่อกันที่ขั้นตอนสุดท้าย คือการจัดเรียงเสื้อผ้า โดยวิธีการของ “KonMari” คือนำเสื้อผ้าที่พับแล้วมาวางเป็นแนวตั้งได้โดยที่ไม่ล้ม และการนำเสื้อผ้ามาเรียงกันในแนวนอนแทนที่จะเป็นแนวตั้ง ซึ่งจะสามารถเพิ่มเนื้อที่การจัดเก็บได้อย่างมาก เนื่องจากสามารถอัดเสื้อผ้าให้เรียบลงได้อีก เพิ่มความจุของเสื้อที่จะเก็บเข้าไปอีก นอกจากจะทำให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เสื้อผ้าแล้ว ยังสามารถนำพื้นที่ว่าง ๆ ในตู้เสื้อผ้าไปใช้เก็บของอย่างอื่นได้อีกมากมายอีกด้วย
เมื่อพับผ้าเสร็จแล้ว ก็มาต่อกันที่ขั้นตอนสุดท้าย คือการจัดเรียงเสื้อผ้า โดยวิธีการของ “KonMari” คือนำเสื้อผ้าที่พับแล้วมาวางเป็นแนวตั้งได้โดยที่ไม่ล้ม และการนำเสื้อผ้ามาเรียงกันในแนวนอนแทนที่จะเป็นแนวตั้ง ซึ่งจะสามารถเพิ่มเนื้อที่การจัดเก็บได้อย่างมาก เนื่องจากสามารถอัดเสื้อผ้าให้เรียบลงได้อีก เพิ่มความจุของเสื้อที่จะเก็บเข้าไปอีก นอกจากจะทำให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เสื้อผ้าแล้ว ยังสามารถนำพื้นที่ว่าง ๆ ในตู้เสื้อผ้าไปใช้เก็บของอย่างอื่นได้อีกมากมายอีกด้วย
โอ้โห…ถือว่าเป็นไอเดียที่เจ๋งมากเลยแหละค่ะ สาวๆนัก F ทั้งหลาย คงต้องชอบ และนำไปปรับใช้กันได้แน่ๆ