เปลี่ยนนิสัย…คุณนายเดี๋ยวก่อน
สวัสดีผู้อ่านที่รักทุกท่านค่ะ จากครั้งก่อนที่เราเคยเล่าถึงการเปลี่ยนตัวเองเรื่องการลดความคาดหวังจากผู้อื่นไป วันนี้ เราจะเล่าถึงอีกหนึ่งนิสัยที่เราเป็นมานาน และเราต้องการเปลี่ยน นั่นคือ การเป็นคนช่างเดี๋ยว หรือเป็นคนผลัดวันประกันพรุ่งนั่นเอง
เดี๋ยวก่อนละกัน เดี๋ยวค่อยทำ ซึ่งสิ่งเหล่านั้น ฉุดรั้งเราไว้หลายต่อหลายครั้ง ไม่ให้เราทำสิ่งที่ควรทำให้สำเร็จ
ใจฮึกเหิมอยากทำ แต่ไม่ลงมือทำซักที เพราะความขี้เกียจ ขอทำตัวสบายๆ เอ้อระเหยไปเรื่อยๆ
ซึ่งมันง่ายมากๆ เลยนะคะที่เราจะทำตามใจตัวเองไปเรื่อยๆ สุดท้ายพฤติกรรมช่างเดี๋ยวของเรา ที่เรา พูดติดปาก เดี๋ยวก่อน กลายเป็น นิสัยขี้เกียจไปเลยค่ะ
เราตั้งใจที่จะเปลี่ยนตัวเองจึงได้ศึกษากฎ 2 นาที ของ David Allen ผู้เขียนหนังสือ Getting Things Done ซึ่งดังมากๆ ในอเมริกา
วิธีการเริ่มง่ายๆ คือ อะไรก็ตามที่เราทำได้ภายใน 2 นาที ให้เราทำทันที ไม่รีรอ
เราเริ่มจากเรื่องง่ายๆในชีวิตประจำวันเลยค่ะ เช่น กินข้าวเสร็จ แทนที่จะนั่งดูทีวีต่อ เดี๋ยวค่อยล้างจาน ก็เปลี่ยนเป็นกินเสร็จเอาล้างไปจานเลยทันที พอเราได้ลงมือทำทันทีกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนทำได้สม่ำเสมอ เจ้าขี้เกียจจะค่อยๆหายไป
เราขยับเป็นเรื่องการออกกำลังกาย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเดี๋ยวมานานมาก ทั้งที่สามีเราออกกำลังสม่ำเสมอมาหลายปีมากๆ บ้านเรามีห้องฟิตเนส ทั้งที่ทุกอย่างพร้อมขนาดนี้ มีต้นแบบที่ดีขนาดนี้ แต่เรากลับไม่เคยจะออกกำลังกายแม้แต่ครั้งเดียว
ระหว่างสามีออกกำลังกาย เราเลือกจะเล่นมือถือ คิดตลอดว่า อยากแข็งแรง แต่ไม่ทำ เจ้าขี้เกียจฝังรากลึกเหลือเกิน
เราจึงเริ่มจากสิ่งที่ง่ายมากๆ อย่างการจัดชุดที่จะใช้ออกกำลังกาย เตรียมรองเท้าให้พร้อม จับๆ มองๆ เริ่มอยากออกกำลังกาย
เราเลือกวิธีออกกำลังกายง่ายๆ ด้วยการเดินกึ่งวิ่ง ตั้งใจว่า จะเริ่มวันละ 200-300 เมตร ก็พอ แต่พอถึงเวลาจริง เราทำได้นานกว่านั้น
วันแรกที่เราออกกำลังกาย เราทำได้เกือบ 700เมตรค่ะ พอเราทำได้ เราภูมิใจ และอยากทำอีก เราเพิ่ม Level ให้ตัวเองเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ เราไม่ใช่เดินกึ่งวิ่งแล้วค่ะ เราวิ่งได้วันละ 2กิโลเมตร และเดินชันต่ออีก 1 กิโลเมตร
ขั้นตอนในการจัดการนิสัยเดี๋ยวก่อนที่เราทำ
1.เริ่มที่เรื่องง่ายๆ ก่อน
จากข้างต้นที่เราเล่าไป จะเห็นว่า เราทำตามกฎ 2 นาทีเลย คือ เริ่มที่เรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันก่อน
2.ทำทันที ไม่รีรอ
การทำทันที ไม่รีรอ เมื่อทำได้จะพบว่า เราจะมีความกระตือรือร้นขึ้น ไม่ปล่อยให้เป็นดินพอกหางหมุ
3.เลิกพูดคำว่า เดี๋ยวก่อน
การปรับคำพูดใหม่ ไม่พูดคำที่ติดปาก เป็นการฝังชุดความคิดใหม่ลงไปแทน ไม่เดี๋ยวก่อน แต่ต้องเดี๋ยวนี้
เราบอกตัวเองว่า อยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ต้องลงมือทำทันที
4.จัดลำดับความสำคัญ
การจัดลำดับความสำคัญ ว่าเราต้องทำอะไรก่อนหลัง จะช่วยให้เราลำดับขั้นตอนที่ต้องทำ โดยใช้วิธีเขียน และทำตามที่เขียนให้ครบตามลำดับ
5.วางมือถือไว้ไกลๆตัว
ทำไมต้องวางไว้ไกลๆ ตัว เพราะเรามักเอาเวลาไปจดจ่อกับมือถือ เปิดเข้าแอพนั้นที แอพนี้ที ดูเพลินจน รู้ตัวอีกที เสียเวลาไปหลายชั่วโมง เราต้องเอาสิ่งเร้าออกไปห่างๆ ค่ะ
6.ชื่นชมตัวเองทุกครั้งที่ได้ทำทันที
การชื่นชมตัวเองที่ได้ลงมือทำ ไม่มีคำว่าเดี๋ยวก่อน แม้สิ่งนั้นเป็นเรื่องเล็กๆ เช่น เอาตากผ้าไปเก็บทันทีที่ตากผ้าเสร็จ จะสร้างกำลังใจดีๆให้อยากทำสิ่งต่างๆ แบบไม่รีรอต่อได้อีกนะคะ
สิ่งที่ได้จากการเปลี่ยนจาก คุณนายเดี๋ยวก่อน เป็น คุณหญิงเดี๋ยวนี้
1.ปรับความคิดเราให้ดีขึ้น
เมื่อเรามีชุดความคิด ความตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเอง เราจะมีมุมมองในการใช้ชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น โยนความคิดเก่าๆ ทิ้งไป
2.ปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้น
ต่อยอดจากความคิดที่อยากจะดีขึ้น เราจะลงมืออย่างจริงจัง ทุกครั้งที่จะเดี๋ยวก่อน จะมีเสียงกระซิบจากตัวเองว่า ลงมือทำเดี๋ยวนี้
เมื่อเราเริ่มมีการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง สมองจะเรียนรู้วิถีแห่งความสำเร็จ เราจะอยากทำให้ดีขึ้นอีกโดยอัตโนมัติเลยค่ะ ไม่มีใครเตือนเราให้ทำอะไรหรือไม่ทำอะไรได้ตลอดนะคะ เราต้องหมั่นเตือนตัวเองเสมอว่า สิ่งใดควรทำ ไม่ควรทำ อย่าให้คำว่า เดี๋ยว… มาฉุดรั้งชีวิตคุณไว้อีกเลยนะคะ
ลงมือทำจากเรื่องเล็กๆให้สำเร็จ ความภูมิใจจะเกิดขึ้น จนหลั่งสารแห่งความสุขออกมา
ขอบคุณทุกท่านนะคะที่ติดตามอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านได้นำไปปรับใช้กันดูนะคะ
เราจะได้ลาขาดจาก คุณนายจอมเดี๋ยวไปด้วยกันค่ะ
ด้วยรัก…ม้าน้ำ