แจกฟรีแพลนเนอร์ พร้อมวิธีเขียนให้ทำตามได้จริง
“มีงานท่วมหัว แต่ไม่รู้จะเริ่มทำอันไหนก่อน เลยไม่ทำมันซะเล้ยยยย” ใครเป็นเหมือนมิ้นต์ ยอมรับมาซะดีๆ 🙋🏼♀️😆 วันนี้มิ้นต์เลยเอาทริคเล็กๆน้อยๆ ในการทำ Planner จัดตารางเวลาทั้งแบบรายสัปดาห์และรายเดือน มาฝากทุกคนค่ะ และแน่นอน มิ้นต์ทำ Planner มาฝากทุกคนด้วย เซฟเอาไปใช้กันได้เลยค่าา
มิ้นต์เคยเป็นคนนึงที่ชอบสมุด planner ม้ากกกกก ซื้อมาไว้ทุกปี มีเต็มบ้านไปหมด เขียนได้ 2-3 หน้า ก็ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อแล้ว หรือบางทีเขียนงานลงตารางจนเต็มด้วยความฟิต ทำตามแพลนไปได้วันสองวัน ก็พอละ เลิกทำ จบ 😂 แล้วพอไปเจอสมุดใหม่ มันก็เหมือนตกหลุมรักอีกครั้ง ซื้อมาอีก แล้วก็วนลูปกลับไป ทำตามแพลนที่เขียนไม่เคยได้ ไม่รู้มันเป็นยังไง 😂
แต่วันนี้ เราจะไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะทางเราได้ทำการหาข้อมูลวิธีการเขียน Planner ที่เราสามารถทำตามได้จริง มาแชร์กับทุกคนค่าาาา 👏🏻👏🏻
เราไปเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าการเขียน Planner ให้เราทำตามได้จริง เค้าต้องเขียนกันยังไง 😊
- จัดลำดับสิ่งสำคัญ
เวลางานเยอะๆ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน สิ่งแรกที่เราควรทำ คือการเขียนงานของเราออกมาทั้งหมดค่ะ รวมถึงวัน deadline ของการส่งงานด้วยนะคะ พอได้ list งานที่เราต้องทำแล้ว ก็เอามาจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังเลยค่ะ ว่าอันไหนสำคัญมาก ต้องรีบส่ง ให้ทำก่อน สำคัญน้อย ส่งช้าได้ ค่อยทำทีหลัง แบ่งความสำคัญด้วยไฮไลท์สีๆ ก็ช่วยได้ค่ะ
พอเราได้ list งานของเราที่จัดลำดับก่อนหลังแล้ว ก็ไปดู step ต่อไปกันค่ะ
2. กำหนดวันส่งงาน/เป้าหมายใหญ่ๆ ใน Monthly Planner
เมื่อเรามี list อยู่ในมือแล้ว เราก็จะรู้แล้วค่ะ ว่าอะไรควรทำวันไหน งานไหนต้องส่งวันไหนบ้าง วันไหนวันสำคัญ ต้องไปไหน จดลงใน Monthly Planner ของเราด้วยความสวยงามได้เลยค่ะ ที่สำคัญไม่ใช่แค่การจดนะคะ แต่ต้องทำตามตารางที่เราวางไว้ให้ได้ด้วยน้า ไม่งั้น Planner ที่เราอุส่าทำไว้ จะหมดความหมายไปเลยค่ะ 😅
3. ใช้ Weekly Planner ลงรายละเอียดงานที่ต้องทำ
เรามีเป้าหมายใหญ่ๆในหนึ่งเดือนแล้ว ว่าควรทำอะไรวันไหนบ้าง คราวนี้เรามาขยาย detail งานที่เราต้องทำ ลงใน Weekly Planner ของเรากันค่ะ มิ้นต์แนะนำว่า ในหนึ่งสัปดาห์ ควรมีโปรเจคที่ต้องทำให้เสร็จแค่ 2-3 งานก็พอ ไม่ควรเยอะเกินนี้ ไม่งั้นเราจะโฟกัสงานแต่ละชิ้นของเราได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือพอเห็นงานที่มันเยอะ ก็ท้อแท้ ไม่ทำมันซะดีกว่า 😅 แล้วตารางงานที่เราอุส่าต์ทำมา ก็จะเละไม่เป็นท่าอีกตามเคย 🥲
4. ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ
ถ้าเราทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ เราก็ควรจะมีรางวัลเล็กๆน้อยๆให้ตัวเองด้วยนะคะ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้เราเดินหน้าทำงานที่เรารักต่อไป รางวัลไม่จำเป็นต้องแพงจนต้องคิดแล้วคิดอีก แต่เป็นอะไรที่ทำให้เราสุขใจ มันก็เพียงพอแล้วค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเดือนนี้ มิ้นต์ทำงานได้ตามตารางที่ตั้งไว้ได้สำเร็จ สิ้นเดือน สามารถซื้อกระเป๋าใหม่ได้ 1 ใบ 😍 แค่นี้ ก็มีแรงฮึดทำงานหาเงินต่อไปแล้วค่าาาาา อิอิ
และข้อดีในการจัดตารางงาน หรือ Planner นั้น ก็เพื่อที่จะช่วยให้เราจัดสรรเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องคอยพะวง ว่างานนั้นยังไม่เสร็จ งานนี้ยังไม่ได้เริ่ม งานนั้นก็โดนตาม โอ้ยยยย งานท่วมหัวเอาตัวไม่รอดที่แท้ทรู 🤣 แต่แค่เราจัดสรรเวลาให้ดี เราก็จะได้งานที่เสร็จตรงตามเวลา มีคุณภาพ ไม่ต้องมาคอยห่วงหน้าพะวงหลังอีกต่อไปค่า และที่สำคัญที่สุด อย่ามัวทำแต่งานจนไม่มีเวลาพักผ่อนนะคะ Work/Life บาลานซ์กันให้ดีนะคะทุกคน ❤️