อาหารชนิดไหน ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
ต้องออกตัวก่อนว่า เราเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ 11ปีแล้ว แต่เราใช้ชีวิตทุกอย่างได้ปกติเลยนะคะ เพียงแค่ระวังอย่าทำกิจกรรมโลดโผนมากนัก เพราะหัวใจเราจะเต้นเร็วกว่าคนปกติ เราทานยาตามที่คุณหมอสั่ง หลังอาหารมื้อเช้าและเย็น คุมจังหวะการเต้นของหัวใจค่ะ
ตั้งแต่เราใช้ชีวิตกับโรคนี้มา เราก็ไม่ได้ดูแลสุขภาพอะไรเลย เราป่วยบ่อยมากๆ ไปหาหมอเดือนละ 2-3 ครั้งเลยค่ะ เราไม่ออกกำลังกาย เพราะกลัวหัวใจจะทำงานหนัก กลัวเหนื่อย ไม่สนใจเรื่องอาหาร อยากทานอะไรก็ทานตามใจ แต่ดีอย่างที่เราชอบทานผักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเรามาคิดได้ว่า มีโรคประจำตัวขนาดนี้ ยังใช้ชีวิตประมาทอีก เราจึงกลับมาใส่ใจสุขภาพ มาศึกษาว่า โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เราเป็น ก็สามารถออกกำลังกายได้ (แสดงว่าที่ผ่านมาเราคิดไปเอง) และสิ่งที่สำคัญมากๆ คือ เราเลือกทานอาหารที่ให้ประโยชน์กับร่างกาย ไม่ตามใจปากเกินไป ผลลัพธ์คือ เราไม่ป่วยเลยค่ะ ทุกวันนี้เราไปโรงพยาบาลแค่ตามที่หมอหัวใจนัด 2เดือนครั้งเท่านั้นเองค่ะ
วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับอาหารที่ช่วยบำรุงให้หัวใจแข็งแรง จะได้ห่างไกลจากโรคนี้กันนะคะ
1.ถั่วฝักยาว
เป็นหนึ่งในพืชตะกูลถั่ว ที่นับว่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเลิศที่ไม่มีไขมันเลว โดยมีการศึกษาและค้นพบว่า คนที่กินพืชตระกูลถั่ว ไม่ว่าจะเป็นถั่วฝักยาว ถั่วพู หรือถั่วแขก ให้ได้อย่างน้อย 4 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจลงไปได้ถึง 22% รวมถึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนที่เป็นเบาหวาน เพราะหนึ่งในโรคนั้น นั่นก็คือ “โรคหัวใจ”
2.บีทรูท
เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไนเตรท ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการสะสมของไขมันและลดการอุดตันในกระแสเลือด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และแน่นอนว่าบีทรูทยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย หลังทานอาหารมื้อต่อไป ลองหาน้ำบีทรูทสกัดเย็นดื่มสักแก้ว เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของสุขภาพหัวใจให้ห่างไกลโรคกันนะคะ
3.แซลมอน
เมื่อพูดถึง “แซลมอน” ต้องยอมรับเลยค่ะว่านี่คือแหล่งโอเมก้า-3 ชั้นดี ที่นอกจากจะช่วยบำรุงสมองเสริมความจำแล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Irregular Heart Beat) ได้ดีอีกด้วย เพราะในปลาแซลมอนนั้นอุดมไปด้วยกรดอีโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid) และกรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือกรดดีเอชเอ (DHA) ที่มีส่วนช่วยในการลดการติดเชื้อ ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว การเกิดหัวใจวาย และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง โรคความดัน รวมถึงไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงอีกด้วย
4.กระเทียม
ไม่ว่าจะทำเมนูไหน กระเทียมแทบจะเป็นวัตถุดิบหลักที่ขาดไม่ได้ และสิ่งที่เรารับรู้หรือได้ยินกันมาตลอดนั่นก็คือ กระเทียมเป็นสิ่งที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลอย่างดี โดยการช่วยทำลายคอเลสเตอรอลและไขมันที่ติดอยู่กับผนังด้านในของหลอดเลือด และทำให้เกิดความยืดหยุ่น เมื่อเลือดไหลเวียนสะดวก หลอดเลือดแข็งแรง ก็ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ
5.ดาร์กช็อกโกแลต
เหล่าช็อกโกแลตเลิฟเวอร์เตรียมตัวเฮกันได้เลย เพราะมีการศึกษามาแล้วว่า ดาร์กช็อกโกแลตนั้นมีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า โพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในเรื่องของความดันโลหิต ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด รวมถึงช่วยลดอาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองในคนที่มีความเสี่ยงสูงได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าช็อกโกแลตทุกอย่างที่จะดีต่อหัวใจ เพราะช็อกโกแลตที่เราบอกมานั้น จะต้องทำมาจากโกโก้อย่างน้อย 60-70% ไม่ใช่ช็อกโกแลตนมแสนอร่อยที่มีโกโก้เป็นส่วนผมอยู่เพียงน้อยนิด
6.บลูเบอร์รี่
ความจริงแล้วไม่ใช่แค่บลูเบอร์รี่เท่านั้นที่มีประโยช์ แต่ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่อื่น ๆ ทั้งสตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ต่างก็มีประโยชน์ต่อหัวใจมากเช่นกัน ยิ่งถ้าในกลุ่มคนที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ถ้าได้ทานผลไม้ตระกูลนี้เป็นประจำ มักพบว่าสามารถช่วยลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวายลงได้ถึง 32% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ค่อยทาน เพราะในผลไม้ตระกูลนี้มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ที่ช่วยลดความดันโลหิตและขยายหลอดเลือดหัวใจได้ดี
7.แปะก๊วย
หนึ่งในสมุนไพรชั้นเลิศที่ขึ้นชื่อเรื่องของการบำรุงสมอง ช่วยให้มีความจำดีขึ้น ลดอาการขี้หลงขี้ลืม เรียกว่าเป็นยาธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ใบแปะก๊วยก็ยังมีสรรพคุณในการช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันและลดการแข็งตัวของเกล็ดเลือด เพราะถ้าเลือดสาารถไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดี ก็ถือว่าเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจได้เหมือนกัน
8.ถั่ววอลนัท
ช่วยให้เซลล์บุผนังหลอดเลือดทำงานได้ดี ช่วยป้องกันหลอดเลือดตีบ ช่วยลดคอเลสเตอรอล และยังลดความเสี่ยงโรคหัวใจอีกด้วยค่ะ
9.อะโวคาโด
ผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพหัวใจ ซึ่งอะโวคาโด 1 ลูก ประกอบไปด้วยโพแทสเซียม 975 มิลลิกรัม หรือประมาณ 28% ของปริมาณโพแทสเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน หากเราได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่เพียงพอก็จะช่วยลดความดันโลหิตซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจได้
10.ธัญพืชที่ไม่ขัดสี
เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี ธัญพืชต่างๆ จะช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยให้หัวใจแข็งแรง และป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในอนาคตได้
11.อัลมอนด์
ส่วนประกอบสำคัญอย่างกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับ HDL หรือไขมันดี และลดระดับ LDL ไขมันเหลวในร่างกายลง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และจำเป็นต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย
You are what you eat. กินแบบไหน ได้แบบนั้น สำนวนนี้ สำหรับเรามันจริงที่สุดเลยค่ะ หากเราใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารที่ให้ประโยชน์กับร่างกาย ร่างกายเองก็ตอบแทนเราด้วยความแข็งแรงกลับมา ฉันใดก็ฉันนั้นค่ะ
หวังว่าบทความนี้ จะทำให้คุณผู้อ่านที่น่ารัก ไปเลือกอาหารดีๆ มีคุณค่าทางโภชนาการ เข้าสู่ร่างกายกันนะคะ
ด้วยรัก…ม้าน้ำ
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลสุขุมวิทและโรงพยาบาลเปาโลค่ะ