จงเดินตามความฝันของตัวเอง
หากเราไม่ใช้ชีวิตตามความคาดหวังของคนอื่นจะเป็นอย่างไร เคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองกันหรือไม่คะ โดยปกติมนุษย์เรา จะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เมื่อได้รับการยอมรับจากคนอื่น ยิ่งได้รับการยอมรับมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากเท่านั้น
เรามาลองตั้งคำถามนี้กันดูค่ะว่า การที่เราทำอะไรบางอย่างเพื่อได้รับการยอมรับนั้น มันคือสิ่งที่เราอยากทำจริงๆหรือเปล่า เช่น ทุกเย็นหลังเลิกงาน คุณจะเป็นคนที่คอยจัดแจงจัดเก็บออฟฟิตให้เรียบร้อยก่อนกลับบ้านเสมอ เพื่อนๆ ก็ต่างพากันชื่นชมสิ่งที่คุณทำ แล้วถ้าไม่มีใครชม คุณจะยังอยากทำหรือไม่ สิ่งนี้น่าคิดนะคะ
หลายต่อหลายครั้งที่เราทำสิ่งต่างๆ เพื่อหวังการยอมรับ ซึ่งสิ่งนี้มีอันตรายซ่อนอยู่โดยเราอาจไม่รู้ตัว เราอาจจะทำไปตามสถานการณ์ และทำสิ่งนั้นๆ ที่ถูกใจคนมากมาย แต่ลึกๆในใจกลับรู้สึกไม่มีความสุข สิ่งนี้มีอิทธิพลมาตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก ที่หากเราทำอะไรที่ถูกอกถูกใจคุณพ่อคุณแม่ ก็ได้รับคำชม แต่ถ้าทำไม่ตรงใจ ก็โดนดุ
วันหนึ่งหากคุณผู้อ่านเกิดทำบางอย่างที่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวเอง แต่อาจไม่ถูกใจใครบางคน สิ่งที่คุณผู้อ่านจะได้รับอาจจะถูกเกลียดหรือไม่ได้รับการยอมรับ แต่อีกสิ่งที่จะได้มานั่นคือ คือ อิสรภาพ หรือการปลดเปลื้องจากพันธนาการจากความคาดหวังนั่นเองค่ะ
ผู้เขียน ขอยกตัวอย่างตัวเอง ในวันที่ตัดสินใจลาออกจากงาน ได้เตรียมตัวกับเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ช่วงกันยายนปี 2563 ว่า สิ้นปีจะลาออก เพราะมีความฝันและเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ต้องการใช้ชีวิตที่มีรายได้ดีและมีเวลา ซึ่งงานที่ทำไม่ตอบโจทย์กับเป้าหมาย เมื่อเล่าให้คุณพ่อและสามีฟังถึงสิ่งที่จะทำ แน่นอนค่ะ ความคาดหวังของคุณพ่อคือ อยากจะเห็นลูกสาวคนนี้เติบโตในหน้าที่การงานที่กำลังไปได้ดี ประกอบกับสถานการณ์โรค Covid19 ที่คนตกงานกันเยอะมาก ในขณะที่บริษัทที่ผู้เขียนทำ ยังคงจ้างงานปกติและไม่มีการลดเงินเดือนใดๆ คุณพ่อก็มองว่ามั่นคง ไม่อยากให้ออก สามีเองก็คิดคล้ายๆ คุณพ่อ ถ้าผู้เขียน เลือกที่จะใช้ชีวิตตามความคาดหวัง คงไม่ออกจากงาน แต่เพราะผู้เขียนยืนหยัดและเชื่อมั่นในตัวเองว่าทำได้ จึงตัดสินใจตามที่ตั้งใจไว้ จนบัดนี้ผ่านมาเข้าเดือนที่ 9 แล้วค่ะ ที่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็น และปัจจุบัน คุณพ่อและสามีก็เข้าใจในตัวผู้เขียน คอยเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ กับเส้นทางที่ผู้เขียนเลือกเดิน
เรื่องที่เล่ามาสะท้อนให้เห็นอะไรบ้าง สำหรับตัวผู้เขียนเอง มองว่า เราสามารถมีชีวิตในแบบที่เราต้องการจะเป็นได้ โดยจะต้องผ่านการพิสูจน์จากตัวเรา กล้าที่จะทำในสิ่งที่ปรารถนา ซึ่งอาจจะไม่ได้รับการยอมรับบ้าง อาจจะมีคนไม่ได้ชื่นชอบในสิ่งที่เราเป็น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของเราเลยค่ะ ตราบใดที่เราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม จงเป็นตัวของตัวเองไปเถอะค่ะ
โลกใบนี้ มีคนอยู่ 3 ประเภทในชีวิต
1.คนที่ชื่นชอบเรา
คนกลุ่มนี้ จะเป็นคนที่คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เราอยู่เสมอ
2.คนที่ไม่ชอบเรา
คนกลุ่มนี้ ไม่ว่าเราจะทำอะไร เค้าก็จะไม่ชื่นชอบเราอยู่ดี
3.คนที่เฉยๆกับเรา
คนกลุ่มนี้มีเยอะที่สุด ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็จะไม่รู้สึกชอบหรือไม่ชอบ อาจจะเห็นเราเป็นเพียงอากาศเลยด้วยซ้ำ
เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เรายิ่งควรตระหนักให้ชัดเจนเลยว่า เราเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสังคมอันกว้างใหญ่ในโลกใบนี้ จงเดินตามความฝันของตัวเอง และใช้ชีวิตระหว่างทางให้มีความสุขทุกวันดีกว่าค่ะ ผู้เขียน ขอเป็นกำลังใจให้คุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนเลยนะคะ
ด้วยรัก…ม้าน้ำ