ถ้าปล่อยบ้านรก มักทำอะไรไม่สำเร็จ จริงหรือ??
หลายต่อหลายคน ที่อยากจะมีบ้านสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ทุกครั้งที่จะเริ่มจัดบ้านกลับพบว่าคนเหล่านั้น ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าทิ้ง แค่คิดก็เหนื่อย สุดท้ายเลยปล่อยให้รกอยู่แบบนั้น
อะไรเป็นสาเหตุ ทำให้คนเราตัดสินใจทิ้งของไม่ได้ อะไรที่ทำให้คนเรายึดติดและลังเลไม่กล้าที่จะลงมือทำ ข้อมูลจากหนังสือ ไดโกะ สุดยอดนักจัดระเบียบเสกชีวิตใหม่ให้คุณ ให้ข้อมูลเรื่องนี้ ได้อย่างน่าสนใจเลยค่ะ
สิ่งสำคัญเกิดจากกระบวนการตัดสินใจ หากวิเคราะห์ลงไปให้ลึกเรื่องจิตใจแล้ว การที่คนเราตัดสินใจทิ้งของไม่ลง มีสาเหตุมาจากกระบวนการทางจิต 3 ประการ
1.ไม่อยากเลือก
เวลาคนเรามีตัวเลือกเยอะเกินไป มักจะเลือกไม่ค่อยได้ เช่น เวลาที่คนซื้อหนังสือมาดองเอาไว้ พอจะเริ่มต้นอ่านหนังสือก็ทำให้ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเริ่มต้นอ่านเล่มไหนก่อนดี ทำให้สุดท้ายแล้วไม่เลือกอ่านเลย หรืออ่านเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่จบ
2.ไม่อยากสูญเสีย
มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่กลัวตัวเองจะเสียผลประโยชน์ที่สุด ยิ่งเมื่อรู้ว่าต้องทิ้งของ คนเราจะรู้สึกทรมานใจที่ต้องสูญเสียไปหรือทำอะไรหล่นหาย จึงทำให้เกิดความกลัวมากกว่าที่จะมองเห็นโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง
3.รู้สึกดีที่ได้เก็บของเอาไว้
ความรู้สึกที่เรามีหรือครอบครองมีค่ามากเกินความเป็นจริง มีงานวิจัยที่ทำการทดลอง คือ ในรอบแรกนักวิจัยเอาแจกันดอกไม้ ให้ผู้เข้าร่วมทดลองดู จากนั้นถามว่า แจกันใบนี้ควรจะขายได้ราคาเท่าไหร่ รอบที่ 2 ผู้วิจัยมอบแจกันดอกไม้ให้กับผู้เข้าร่วมทดลองเป็นของวัญ จากนั้นถามว่าถ้าขอซื้อแจกันใบนี้คืนจะขายเท่าไหร่
เมื่อนำมาเปรียบเทียบ ราคาแจกันในรอบแรก จะต่ำกว่าราคาความเป็นจริง ส่วนราคาในรอบที่ 2 จะแพงกว่าราคาความเป็นจริง งานวิจัยนี้พบว่าคนเราจะประเมินค่าของสิ่งที่เรามีสูงกว่าความเป็นจริงเสมอ จึงไม่น่าแปลกเลยว่าทำไม เราจะเห็นคนที่ชอบสะสมของบางอย่างที่ไม่มีราคา เช่น ถุงพลาสติก กล่องกระดาษ ขวดที่ใช้แล้ว ทำไมพวกเค้าถึงไม่ยอมทิ้ง นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้สึกว่า ของที่ครอบครองอยู่มีมูลค่าสูงกว่าความเป็นจริงนั่นเอง
จากกระบวนการทั้ง 3 ข้อนี้ ทำให้คนมีแต่ความลังเล แต่ไม่ยอมทิ้ง แม้จะเห็นว่ามีข้าวของจนรกบ้านแล้วแต่ก็ตัดสินใจทิ้งของไม่ได้เสียที
นอกจากนี้แล้วการที่คนทิ้งไม่ลง มักจะยึดติดกับสิ่งเดิมๆ เพราะมัวแต่เตรียมกระบวนการ ทำให้ไม่ยอมลงมือทำอะไรสักอย่าง ทั้งๆที่รู้ว่ามีอะไรต้องทำเต็มไปหมด
วิธีแก้ไขที่ไดโกะแนะนำก็คือ การตัดตัวเลือกให้น้อยลง เหลือเพียง 3 ตัวเลือก
จำนวนเลข 3 นั้นถือว่าเป็นเลขที่จำได้ง่ายๆ หากตัวเลือกน้อยไป เช่น มีรองเท้าเหลือเพียงคู่เดียวที่ใส่ไปทำงานได้ คนเราก็จะรู้สึกว่าเครียดและกดดันหากมีตัวเลือกมากเกินไป ก็จะยิ่งทำให้ตัดสินใจเลือกได้ยากขึ้น ตัวอย่าง เลือกคัดรองเท้าที่จะใส่ไปทำงาน เหลือเพียงแค่ 3 คู่ เลือกซื้อหนังสือเพื่ออ่านเพียง 3 เล่มก่อน ส่วนที่เหลือก็โละ ทิ้งหรือขายไป เพื่อลดความสับสนกับตัวเลือกที่ไม่จำเป็น
ทั้งหมดที่กล่าวมาในข้างต้น สามารถสรุปได้ง่ายๆ คือ การมีตัวเลือกที่มากเกินไป จะทำให้เราสับสน
วิธีที่ดีที่สุดก็คือพยายามตัดตัวเลือกให้เหลือน้อยที่สุดและการปล่อยให้บ้านรกนั้นจะส่งผลโดยตรงกับกระบวนการทางความคิดและการตัดสินใจ ในด้านอื่นๆ ของชีวิตแน่นอนค่ะ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้อ่านที่น่ารัก จะมีแรงบันดาลใจในจัดบ้านให้เรียบร้อย ตัดใจทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็นเพื่อบ้านที่น่าอยู่และปรับเปลี่ยนความคิดให้มีระบบขึ้นด้วยนะคะ
ด้วยรัก….ม้าน้ำ