ทลายกำแพงความกลัว และปลุกความมั่นใจในตนเอง
คุณผู้อ่านที่น่ารัก เคยรู้สึกหรือไม่คะว่าทำไม “ความกลัว” จึงเป็นศัตรูตัวฉกาจที่คอยขัดขวางความสำเร็จของคนเรา ฟรายเดย์ โฟลว มีคำตอบให้ค่ะ นั่นเพราะความกลัวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจที่บั่นทอนความเข้มแข็งที่มีให้พังลงไป จนทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถที่จะทำในสิ่งที่ต้องการเพื่อผลแห่งชัยชนะและความสำเร็จได้ เราจะสามารถชนะความกลัวได้ เมื่อเรา “มีความมั่นใจในตนเอง” และความมั่นใจจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการฝึกฝนจนเกิดเป็นความชำนาญ สิ่งใดก็ตามที่ทำให้เราเกิดความกลัวนั้น จะขยายขนาดความกลัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเราไม่กล้าเผชิญหน้า เกิดความลังเล ไม่ตัดสินใจ ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น วิธีการที่จะขจัดความกลัวไปได้คือการลงมือทำ
ตัวอย่างง่ายๆ ที่จะช่วยขจัดความกลัว เช่น ถ้ากลัวการพบเจอผู้คน เราก็ต้องออกไปเจอผู้คนให้มากขึ้น โดยใช้หลักความคิดว่า ให้เรามองผู้อื่นด้วยความเท่าเทียมกัน หลายคนที่กลัวการพบเจอผู้คน เป็นเพราะไม่มั่นใจในตนเอง และมองว่าตนเองนั้นด้อยกว่าผู้อื่น ทั้งที่จริงแล้ว ไม่ว่าคนนั้นจะยากดีมีจน สิ่งที่มนุษย์มีไม่ต่างกันคือ ความรัก โลภ โกรธ หลง และให้เราสร้างทัศนคติในการเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ไม่ว่าคนที่เราพบเจอนั้นจะมีพฤติกรรมเช่นไร ขอให้เราคิดไว้ว่า พื้นฐานลึกๆในจิตใจมนุษย์ทุกคนล้วนอยากเป็นคนดี ซึ่งสิ่งนี้คือทางออกที่จะทำให้เราทลายกำแพงความกลัวลงได้ค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยขจัดความกลัว และสร้างความมั่นใจในตนเองได้ นั่นก็คือ การทำในสิ่งที่ถูกต้อง อ้างอิงข้อมูลนี้จากหนังสือ The Magic of Thinking Big (คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก) ของผู้เขียนคุณ David J. schwartz ได้เขียนไว้ว่า “การทำในสิ่งที่ถูกต้อง จะทำให้เรามีความอิ่มเอมใจ และสิ่งนี้จะทำให้เรามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ขณะเดียวกัน หากเราทำในสิ่งที่ผิด เราจะเกิดความกลัว และขาดความนับถือในตนเอง และแน่นอนไม่ว่าจะช้าหรือเร็วความจริงที่เกี่ยวกับความผิดที่ได้ทำก็จะปรากฎขึ้น ผู้คนก็จะหมดความเชื่อถือในตัวเรานั่นเอง ”
และสุดท้ายนี้ ฟรายเดย์ โฟลว ขอให้เคล็ดลับดีๆ ในการสร้างความมั่นใจในตนเอง 5 ข้อ จากหนังสือเล่มเดียวกันมาฝากคุณผู้อ่านนะคะ
1.นั่งแถวหน้า สร้างความมั่นใจ
ในการประชุมหรือสัมมนาต่างๆ แถวที่นั่งด้านหลังจะถูกจับจองก่อนเสมอ นั่นเพราะคนส่วนใหญ่ ไม่ต้องการตกเป็นจุดเด่น หรือเป้าสายตา มีความเขินอายที่จะต้องสบตากับผู้บรรยายในที่ประชุม ดังนั้น นี่คือโอกาสอันดีที่เราจะสร้างความมั่นใจในตนเองขึ้นค่ะ ไปนั่งแถวหน้าเลยค่ะ บอกกับตัวเองทุกครั้ง ว่าจากนี้จะนั่งแถวหน้าเสมอ
2.ฝึกสบตา
การสบตา เป็นสิ่งที่ยืนยันความมั่นใจในตนเองได้เป็นอย่างดี คนที่ไม่กล้าสบตาผู้อื่น ในภาษากาย บ่งบอกถึงว่าคนนั้นมีอะไรปิดบังไว้ หรือเป็นคนขาดความเชื่อมั่น หรือกลัวอะไรบางอย่างอยู่ หรืออีกนัยหนึ่งคือ บ่งบอกว่า คนนั้นรู้สึกอ่อนแอหรือต่ำต้อยกว่าคนอื่น ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องพยายามฝึกการสบตากับคู่สนทนาเข้าไว้ค่ะ นอกจากจะช่วยให้มั่นใจในตนเองแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ เป็นมิตร แถมยังเพิ่มเสน่ห์ให้เราขึ้นด้วยนะคะ
3.เดินให้เร็วขึ้น 25%
คนที่มีความมั่นใจในตนเอง จะเดินอย่างกระฉับกระเฉง เดินค่อนข้างเร็ว บางคนเดินกึ่งวิ่งเลยค่ะ ในทางจิตวิทยากล่าวว่า การแสดงออกทางร่างกายนั้น เป็นผลมาจากสภาพจิตใจ คนที่ท้อแท้หมดหวัง จะเดินห่อไหล่ เดินช้าๆ เดินแบบหมดอาลัยตายอยาก ฉะนั้นเรามาปรับตัวเองให้มีความมั่นใจขึ้น ด้วยการเดินให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 25% อกผายไหล่ผึ่ง ไม่เดินห่อไหล่ด้วยค่ะ ใครที่เป็นคนเดินเร็วอยู่แล้ว มองตรงไปข้างหน้า ไม่ก้มหน้าก้มหน้าเดินอย่างเดียวนะคะ
4.ฝึกพูดแสดงความคิดเห็น
หลายคนปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมหรือสัมมนา เพราะกลัวว่า สิ่งที่พูดจะผิด จะดูไม่ฉลาด เลยเลือกที่จะเงียบไว้อยู่เฉยๆดีกว่า การไม่แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมนั้น จะลดความเชื่อมั่นในตัวเองลงไปเรื่อยๆ ต่างกันกับคนที่แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมอยู่เสมอ จะกลายเป็นคนที่มีความมั่นใจมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะมีทักษะการพูดที่ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ จำไว้เสมอว่า ในการแสดงความเห็นของเราแม้จะมีคนไม่เห็นด้วย แต่ในขณะเดียวกันจะมีคนที่เห็นด้วยกับความคิดเราเสมอ ดังนั้น ยกมือแสดงความคิดเห็นหรือตั้งคำถามทุกๆครั้งไปเลยค่ะ
5.ยิ้มให้กว้างเข้าไว้
การยิ้มคือกำลังใจอย่างดี และเปรียบประหนึ่งยาที่รักษาอาการทางใจทุกชนิด การยิ้มกว้างๆออกมา ยังช่วยระงับความโกรธลงได้ และที่สำคัญคือ การยิ้มกว้างๆจะเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาจากภายในเลยค่ะ ลองยิ้มให้กว้างสุดๆ คุณผู้อ่านจะรู้สึกดีและรู้สึกมั่นใจอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านที่น่ารักของ ฟรายเดย์ โฟลว ไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่นะคะ
ด้วยรัก…ม้าน้ำ