Be the best version of Yourself
ทำไมมนุษย์เราถึงต้องใส่เสื้อผ้าปกปิดร่างกายไว้ บรรดาสัตว์น้อยใหญ่ไม่เห็นต้องใส่เลย เคยมีใครสงสัยเรื่องนี้กันมั้ยคะ หากนำเรื่องการใส่เสื้อผ้ามาเปรียบเทียบกับการใช้ชีวิตของมนุษย์แล้ว นั่นเพราะมนุษย์เราได้มีการตั้งบรรทัดฐานบางอย่างกันขึ้น ที่ควรต้องปกปิดเนื้อหนังมังสาในส่วนที่ไม่สมควรเปิดเผยไว้ และเราต่างรู้กันดีว่า มนุษย์เราถูกกำหนดด้วยศีลธรรม หรือสร้างสังคมในอุดมคติต่างๆขึ้น ที่ทำให้รู้ว่าสิ่งใดที่ควรทำและไม่ควรทำ เราจะเห็นได้ว่า การที่สิงโตไล่ฆ่ากวางนั้น สิงโตไม่ได้รู้สึกผิดบาป เพราะนั่นคือการล่าเพื่อเป็นอาหาร สิงโตทำไปตามสัญชาตญาณทางธรรมชาติ แต่หากเป็นมนุษย์ เมื่อเราจะต้องฆ่าสัตว์ เราจะมีความรู้สึกผิดบาปขึ้นมา เราถูกกำหนดให้แยกแยะดีชั่ว ทำให้เราจะต้องคอยประเมินตัวเองกันตลอดเวลา ว่าสิ่งที่กำลังกระทำ หรือ จะกระทำนั้นเหมาะสมหรือไม่
หากกลับมามองชีวิตของเราเอง เราเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยู่ท่ามกลางประชากรเจ็ดพันกว่าล้านคนบนโลกใบนี้ ไม่เห็นจำเป็นต้องทำให้มันดีอะไรมากมาย เราก็เป็นของเราแบบนี้ ทำได้เท่านี้แหละ จะพยายามดูแลตัวเองไปทำไม หากคิดเช่นนี้จริงๆ โลกคงน่าอยู่น้อยลง เพราะอะไรหรอคะ เพราะเราไม่ได้ใช้ชีวิตเพียงลำพังบนโลกนี้ไงคะ สิ่งที่เราเป็น หรือสิ่งที่เรากระทำนั้น จะส่งผลกระทบต่อผู้อื่นเสมอ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆเลยค่ะ การที่คนๆหนึ่งใช้ชีวิตแบบไม่ดูแลสุขภาพ อยากกินอะไรก็กิน ไม่ออกกำลังกาย แล้ววันหนึ่ง คนๆนั้นเกิดล้มป่วยลง ผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ เมื่อสุขภาพพัง ก็ต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาตัว ไหนจะผลกระทบกับครอบครัว ที่จะต้องมีคนมาดูแลในเวลาที่ป่วย สมาชิกในครอบครัวก็อาจจะต้องหยุดงาน ขาดรายได้ไปด้วย ผลกระทบกับหน้าที่การงาน เพราะไม่ได้ไปทำงาน งานก็สะดุดมีผลกับเพื่อนร่วมงานอีก นี่แค่ส่วนหนึ่งเองนะคะ ในทางกลับกัน ถ้าคนๆนั้นเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า จะต้องดูแลตัวเองให้ดี โดยเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จนวันหนึ่งคนๆนั้น มีสุขภาพที่ดีขึ้นมากๆ แถมยังหุ่นดีขึ้นอีกด้วย แน่นอน คนรอบตัวของเค้าที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ก็เกิดแรงบันดาลใจ ที่อยากจะดูแลสุขภาพให้ดี อยากจะมีหุ่นดีบ้าง อธิบายแบบนี้ ภาพชัดเจนเลยมั้ยคะ
มาถึงตรงนี้ ถ้าหากคุณผู้อ่านที่น่ารักรู้แล้วว่า จากนี้ไปจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ไม่ใช่ดูแลแค่สุขภาพนะคะ แต่หมายถึงการทำตัวเองให้ดีที่สุดในทุกๆด้าน จินตนาการให้เห็นภาพชีวิตที่ดีที่สุด ที่เราจะเป็นให้ได้ เราจะหาทุกหนทางเพื่อให้เราดีขึ้นได้กว่าเดิม พอเราเห็นภาพสิ่งที่เราอยากจะเป็นแล้ว เราจะจัดกระบวนการความคิดและการกระทำว่า ปีนี้มีเป้าหมายอะไร และแบ่งออกมาเป็นสิ่งที่จะลงมือทำประจำเดือน ประจำสัปดาห์ และประจำวัน ถ้าเรารักตัวเองเราจะรู้ทันทีว่าสิ่งไหนที่ควรทำ หรือ ไม่ควรทำ เมื่อเราดูแลชีวิตเราให้ดีขึ้นได้แล้ว คนรอบข้างของเราก็จะดีตามไปด้วย (คุณผู้อ่านคงเคยได้ยินประโยคนี้กันนะคะว่า เราคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คนที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด) สิ่งนี้คือความรับผิดชอบต่อชีวิตนั่นเองค่ะ อย่างน้อยที่สุด คือ เราต้องไม่สร้างความเดือดร้อนใดๆให้สังคม ยิ่งหากเราสามารถส่งต่อสิ่งดีๆให้สังคมได้ ช่วยเหลือสังคมได้ด้วย นั่นคือ การสร้างคุณค่าของการใช้ชีวิตเลยค่ะ โลกจะน่าอยู่ขึ้นมากๆ ถ้าทุกคนเริ่มที่ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด
ขอยกหนึ่งประโยคจาก เฟรดริช นิทซ์เช่ “คนที่รู้ว่า มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร จะทนได้ทุกอย่าง” คำๆนี้สั้นแต่ความหมายลึกซึ้งมากเลยค่ะ การมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร นั่นคือการมีเป้าหมาย และใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ไม่ล่องลอยไปวันๆ ต่อให้เจออุปสรรค หรือ สิ่งยั่วยุใดที่จะทำให้ใจไขว้เขวไป คนๆนั้นก็จะอดทนต่อทุกอย่าง เพื่อที่จะเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดและไปให้ถึงเป้าหมายค่ะ
ด้วยรัก…ม้าน้ำ