8เทคนิค ฝึกสมาธิแบบใช้ได้ผลจริง
คุณผู้อ่านเคยเป็นกันมั้ยคะ เวลาที่คิดว่าจะทำงานให้เสร็จตามที่ตั้งใจไว้ แต่แล้วก็มีอะไรบางอย่างเข้ามารบกวนจนเสียสมาธิไปซะดื้อๆ หรือ บ่อยครั้งที่ตั้งใจแน่วแน่กับกิจกรรมอะไรก็ตามที่เราอยากจะทำ แต่สุดท้ายเราก็เผลอใจไปกับความใจลอย รู้ตัวอีกที สิ่งที่ตั้งใจจะทำ ก็ทำไม่เสร็จ หรือถ้าทำเสร็จก็ไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก เพราะเราได้เสียสมาธิไปในขณะกำลังทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่นั่นเองค่ะ
วันนี้ ฟรายเดย์ โฟลว ได้มีโอกาสนำเคล็ดลับดีๆ จากช่อง Have a nice brain ของคุณนิ้วกลม มาบอกคุณผู้อ่านที่น่ารัก รับรองว่าเป็นเทคนิคแบบเร่งด่วนที่จะบอกลาชีวิตที่ไม่มีสมาธิไปได้เลยค่ะ
1.ใช้ที่อุดหูตัดเสียงรบกวน
ใช้ที่อุดหู เพื่อตัดเสียงรบกวนจากสิ่งรอบข้าง เป็นวิธีที่ง่ายมากๆ ที่จะทำให้เรามีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตรงหน้ามากขึ้น สมมุติ เพื่อนร่วมงานกำลังคุยเรื่องละครที่ดูเมื่อคืน แล้วคุณเองก็อยากจะร่วมวงสนทนาด้วย ใช้ที่อุดหูช่วยเลยค่ะ เราจะได้ไม่ต้องฟังไม่ต้องได้ยินสิ่งเร้ารอบข้าง หรือบางคนอยากจะนอนพักแต่เสียงรอบข้างรบกวนก็ใช้ที่อุดหูช่วยได้นะคะ จะได้นอนหลับง่ายขึ้นด้วยค่ะ
2.กระดาษ 3 แผ่น
เทคนิคนี้ ให้นำกระดาษ 3แผ่นมาเขียนหัวกระดาษคำว่า เช้า กลางวัน เย็น อย่างละแผ่นไว้ค่ะ สมมุติเรากำลังทำงานอยู่แล้วมีความคิดอะไรก็ตามแว๊บเข้ามาในสมองของเรา ให้จดความคิดนั้นลงไป เช่น คิดเรื่องครอบครัว คิดเรื่องละคร คิดเรื่องแฟน อะไรก็ได้ที่แว๊บเข้ามา วิธีนี้จะทำให้เรารู้เท่าทันความคิดของเราว่าอะไรก่อกวนจิตใจเรา ช่วงเวลาไหนที่จิตเราฟุ้งซ่านมากที่สุด ฝึกเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เราจะมีสมาธิดีขึ้นมากๆเลยค่ะ
3.แบ่งเวลาให้กับความใจลอย
ข้อนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบเช็คโซเชี่ยลบ่อยๆจนเสียสมาธิ ฉะนั้นให้กำหนดเวลาให้ชัดเจน ว่าจะให้เวลาตัวเองใจลอยไปกับสิ่งต่างๆตอนไหนบ้าง เช่น ในหนึ่งชั่วโมง จะพักจากสิ่งที่กำลังทำ ให้ตัวเองใจลอย 10 นาที แนะนำเพิ่มเติม ให้วางมือถือไว้ไกลๆตัวก็ช่วยได้ดีเลยค่ะ
4.ขยับร่างกายเพิ่มอ๊อกซิเจน
เทคนิคนี้ เหมาะกับคนที่ทำงานนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานานๆ สมองจะขาดอ๊อกซิเจน ทำให้เหนื่อยล้าทั้งทางสายตา สมอง ร่างกายจะเพลียและเสียสมาธิในที่สุดค่ะ ให้ลุกขึ้นขยับแขนขาบ้าง ทุกๆ 45 นาที หรือ ชั่วโมงละครั้ง หัวใจจะได้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมอง ได้ความกระปรี้กระเปร่าเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ
5.พักทุกหนึ่งชั่วโมง
ข้อนี้สืบเนื่องมาจากข้อ 3และ 4 เลยค่ะ มีงานวิจัยว่า สมองของมนุษย์จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและจดจ่อกับสิ่งๆหนึ่งได้มากที่สุดเต็มที่ 45-60 นาที ฉะนั้น เราต้องให้สมองและร่างกายได้มีเวลาพัก 10-15นาที ทุกๆชั่วโมงนั่นเองค่ะ
6. จดสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน (To do List)
การทำ To-Do list จะทำให้เราลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะต้องทำ และทำให้เราจดจ่อไปทีละอย่าง ไม่ทำหลายอย่างพร้อมๆกัน เหมือนคำกล่าวที่ว่า เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำเลยค่ะ และในทางจิตวิทยา เมื่อเราทำสิ่งแรกสำเร็จแล้วขีดฆ่าออก เราจะมีพลังและสมาธิในการทำสิ่งที่ สอง สาม สี่ มากขึ้นด้วยค่ะ
7.เทคนิคแมงมุม
วิธีนี้นำลักษณะของแมงมุมมาใช้ คือ เวลาที่แมงมุมรู้สึกได้ว่ามีอะไรมารบกวนใยของมัน มันจะมาดูให้เห็นกับตาว่าคืออะไร ถ้าสิ่งนั้นไม่ได้ทำอันตรายให้กับมัน ต่อให้สิ่งนั้นมารบกวนอีก มันก็จะไม่กลับไปดูซ้ำ ซึ่งนำมาใช้กับเราได้ในกรณีที่ สมมุติว่า สภาพแวดล้อมที่เราอยู่ขณะนั้น มีเสียงดังจากเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้ๆออฟฟิตเรา เมื่อเรารู้แล้วก็ฝึกตัวเองให้ชินกับเสียงนั้น จนเสียงนั้นไม่สามารถทำลายสมาธิเราได้ค่ะ
8. เทคนิคขออีกห้า (5 more rule)
เทคนิคขออีกห้า จะใช้ในขณะที่เรากำลังจะเสียสมาธิไปจากสิ่งที่กวนใจ เช่น กำลังทำงานแล้วเกิดอยากจะไปเล่นมือถือ ก็บอกตัวเองว่า ขออีก 5 นาทีนะ หรือ กำลังตั้งใจอ่านหนังสือแล้วเกิดวอกแวก ก็บอกตัวเองว่าขออ่านอีก 5หน้า เทคนิคนี้ถ้าฝึกจนทำได้บ่อยๆ เราจะเป็นคนที่มีสมาธิดีระยะยาวเลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 8 เทคนิคดีๆที่จะช่วยให้คุณผู้อ่านมีสมาธิและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟรายเดย์ โฟลว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่มากก็น้อยนะคะ บทความต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร รอติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ
ด้วยรัก…ม้าน้ำ