4 สารแห่งความสุขในร่างกาย ที่สร้างได้ด้วยตัวเอง
ร่างกายมนุษย์มีความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีตมากเลยค่ะ ทุกความรู้สึกที่เรามีไม่ว่าจะเป็น รัก เกลียด ชอบ ไม่ชอบ พอใจ เสียใจ ยินดี อิจฉา ภูมิใจ ความรู้สึกเหล่านี้ ล้วนมีสารเคมีในสมองผลิตออกมา ถ้าเป็นอย่างนั้น หากเราเลือกให้เรามีความสุขได้ก็น่าจะดีใช่มั้ยคะ ฟรายเดย์ โฟลว จะพาคุณผู้อ่านที่น่ารัก มาผลิตสารแห่งความสุข 4 ชนิด ด้วยตัวเราเองกันดีกว่าค่ะ
1.สารเอ็นโดรฟิน( Endorphin)
สารเอ็นโดรฟิน คือ สารสื่อประสาทที่ประกอบด้วยเปปไทด์กลุ่มใหญ่ที่ผลิตจากระบบประสาทส่วนกลางและต่อมใต้สมอง ร่างกายจะปล่อยสารนี้ออกมาเพื่อตอบสนองต่อความเจ็บปวดหรือความเครียด จึงหมายถึงฮอร์โมนบรรเทาอาการปวดตามธรรมชาติที่ผลิตจากภายในร่างกาย การหลั่งเอ็นโดรฟินทำให้รู้สึกมีความสุข เคลิบเคลิ้ม อิ่มอกอิ่มใจ คลายเครียด ทำให้อยากอาหารมากขึ้น อีกทั้งช่วยหลั่งฮอร์โมนเพศ และเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน หากร่างกายผลิตเอ็นโดรฟินไม่เพียงพอ จะส่งผลกระทบทั้งทางอารมณ์และร่างกายได้ เช่น มีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล หงุดหงิดง่าย มีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น ก้าวร้าว ปวดเมื่อย หรือนอนไม่หลับ
ตัวอย่างการสร้างสารเอ็นโดรฟินด้วยตัวเอง
1.การออกกำลังกายทุกชนิด โดยเฉพาะออกกำลังกายเป็นกลุ่ม
2.การเล่นดนตรี การสร้างสรรค์งานศิลปะ การเต้น
3.การหัวเราะ
4.การฝึกทำสมาธิ ฝึกการหายใจ
5.ทานอาหารที่มีสารเอ็นโดรฟิน เช่น ดาร์กช๊อกโกแลต,ไวน์
2.สารโดพามีน (Dopamine)
สารโดพามีน คือ สารเคมีในสมองที่เกิดจากกรดอะมิโนชนิดไทโรซีนและเอนไซม์ไทโรซีนไฮดร็อกซิเลสที่ทำงานควบคู่กัน โดยสารที่หลั่งออกมานั้นจะถูกรับโดยโปรตีนในสมองและเส้นประสาททั่วร่างกาย ช่วยให้กระบวนการทำงานของสมองและการเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นไปอย่างปกติ ช่วยควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็ก ควบคุมอารมณ์ความรู้สึก ช่วยในเรื่องของการรับรู้ ส่งเสริมระบบความจำ และการเรียนรู้ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ในทางการแพทย์มีการวิจัยแล้วพบว่าสารนี้ยังมีหน้าที่ในการสร้างบุคลิกของผู้คนให้กลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีได้ หากมีสารโดพามีนอย่างเพียงพอสมองตัดเรื่องแง่ลบหรือแง่ร้ายออกไปได้อย่างอัตโนมัติ รวมไปถึงในช่วงเวลาที่เกิดปัญหา จะช่วยทำให้มีสมาธิในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ตัวอย่างการสร้างสารโดพามีนด้วยตัวเอง
1.ทำงานที่ตั้งใจเสร็จตามกำหนด
2.ฉลองในความสำเร็จเล็กๆน้อยๆด้วยการยิ้ม เช่น ตื่นมาเก็บที่นอนให้เรียบร้อย กินข้าวแล้วล้างจานทันที
3.การดูแลตัวเอง เช่น ตั้งใจแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน เข้าร้านเสริมสวย ทำผม ทำเล็บ
4.การออกกำลังกาย
5.ฟังเพลงที่ชอบ
6.รู้สึกขอบคุณชีวิต
3.สารเซโรโทนิน (Serotonin)
สารเซโรโทนิน คือ สารสื่อประสาทที่ช่วยถ่ายทอดสัญญานต่างๆ จากสมองในบริเวณหนึ่งไปยังอีกบริเวณหนึ่ง มีส่วนสำคัญต่อการทำงานทางด้านจิตใจและทางร่างกาย เซลล์สมองจำนวน 40 ล้านเซลล์ ถูกควบคุมทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสารเซโรโทนิน ซึ่งก็รวมถึงเซลล์สมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความปรารถนาทางเพศ ความอยากอาหาร การนอนหลับ ความทรงจำกับการเรียนรู้ การควบคุมอุณหภูมิ และพฤติกรรมทางสังคมบางอย่าง ช่วยให้เรารู้สึกเบิกบาน ผ่อนคลาย สงบ และมีความมั่นใจในตัวเอง หากมีสารเซโรโทนินในระดับต่ำนั้น มีส่วนที่ทำให้เรารู้สึกซึมเศร้า หวาดวิตก เครียด หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี ขึ้นมาได้
ตัวอย่างการสร้างสารเซโรโทนิน ด้วยตัวเอง
1.การออกกำลังกาย โดยเฉพาะ การโยคะ
2.การฝึกทำสมาธิ ฝึกการหายใจ
3.ทานอาหารที่มีสารเซโรโทนิน เช่น กล้วยน้ำว้า ไข่ แซลมอน ไก่งวง ถั่วเหลือง สับปะรด
4.ออกไปรับแสงแดดยามเช้า
4.สารออกซิโทซิน (Oxytocin)
สารออกซิโทซินคือ สารที่สร้างจากต่อมใต้สมอง หรือไฮโปทาลามัส ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย โดยปกติผู้หญิงจะมีฮอร์โมนชนิดนี้มากกว่าผู้ชาย ในช่วงการคลอดลูกนั้น สารออกซิโทซินจะช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวในมดลูก ทำให้มดลูกเกิดการบีบรัดตัว ยิ่งมีออกซิโทซินมาก ก็ยิ่งทำให้มดลูกบีบรัดตัวมากขึ้นตามไปด้วย และมีผลการศึกษาวิจัยเมื่อปี 2012 ว่า คนที่มีความรักในระยะแรก จะมีระดับออกซิโทซินเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนโสด จึงทำให้นิยมเรียกสารนี้กันว่า ฮอร์โมนแห่งความรัก เนื่องจากร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนชนิดนี้ออกมา เมื่อผู้คนกอดกันหรือแสดงความรักต่อกัน ให้ความรู้สึกดีๆต่อกันนั่นเอง
ตัวอย่างการสร้างสารออกซิโทซินด้วยตัวเอง
1.เล่นกับสัตว์เลี้ยง โดยให้มีการพูดคุย รวมทั้งการสัมผัสหรือลูบคลำสัตว์เลี้ยง
2.กอดหรือสัมผัสกับคนที่เรารัก เช่น คุณพ่อคุณแม่ พี่น้อง แฟน เพื่อน
3.เป็นผู้ให้แบ่งปันสิ่งดีๆกับผู้อื่น เช่น เลี้ยงอาหารคนไร้บ้าน ให้อาหารสัตว์จรจัด
4.ดูหนัง โดยเฉพาะหนังดราม่า ถ้ามีฉากที่เรารู้สึกเห็นใจและสงสารตัวละครจนหลั่งน้ำตาออกมา
ทั้งหมดนี้ เป็นวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถทำให้ร่างกายของเราหลั่งสารแห่งความสุขออกมา สิ่งสำคัญที่สุด คือ การที่เราทำตัวเองให้มีความสุข ย่อมส่งผลให้สุขภาพจิตดี เมื่อสุขภาพจิตดี สุขภาพกายโดยรวมก็ย่อมจะดีตามไปด้วย ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบที่สัมพันธ์กันอย่างเลี่ยงไม่ได้ Friday-Flow หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าคุณผู้อ่านทุกท่านจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ไม่มากก็น้อย นำไปปรับใช้กันได้ตามสะดวกเลยนะคะ
ด้วยรัก…ม้าน้ำ
แหล่งข้อมูล โรงพยาบาลสมิติเวช ,พบแพทย์.com,สาระสุขภาพน่ารู้